วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The return & korea trip part 1

    หลังจากการที่ว่างเว้นในการเขียนบล็อกมาเป็นเวลานาน น๊าาานนน นาน นะครับ บล็อกผมก็ได้กลับมาในชื่อและรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ Weekly Science (วิทยาศาสตร์รายสัปดาห์)จะมีทั้งเนื้อหาสาระ เรื่องราวกิจกรรมของเจ้าของกระทู้ และอื่นๆ(ที่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก555)

    ตอนที่ผมได้หายไปนั้นก็เป็นช่วงปิดเทอมผมก็ได้ไปเที่ยวพักผ่อนในที่ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเทศที่ผมได้ไปท่องเที่ยวนั้นคือ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนในประเทศนั้นผมได้ไปเที่ยวที่ เขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน)จังหวัด สุราษฎร์ธานี

KOREA TRRIP PART 1

ในโพสแรกนี่จะพูดถึงทริปที่ผมได้ไปเกาหลีมานะครับ โดยที่เวลาของประเทศเกาหลีนั้นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. โดยสภาพอากาศที่เกาหลีในช่วงที่ผมไปนั้นคล้ายๆกับประเทศไทย แต่จะเย็นกว่าเล็กน้อย เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยเครื่องบินอย่างแรกที่คนมักจะนึกถึงคือ อาการ jet lag วันนี้ผมก็จะมาอธิบายเรื่องนี้แหละครับ

Jet lag หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Desynchronosis หรือ Flight fatigue เป็นกลุ่มอาการทางด้านสรีรระวิทยา ซึ่งเกิดจากการแปรปรวนต่อระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย เป็นผลมาจากการเดินทางระยะทางไกลและเป็นเวลาอันรวดเร็ว(โดยเฉพาะเครื่องบินไอพ่น)

นาฬิกาชีวภาพ(Circadian Rhythm หรือ Human Biological Clock) เป็นระบบที่สำคัญของร่างกายที่คอยควบคุมการหลั่งฮอร์โมน เพิ่มความตื่นตัว ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกาพ และยังช่วยควบคุมวงรอยการหลับและตื่น และควบคุมระดับอุณหภูมิของคนเราอีกด้วย แต่ถ้าร่างกายขาดความสมดุลสม่ำเสมอของตัวควบคุมนาฬิกาชีวิต ก็จะเกิดการแปรปรวน ซึ่งระบบนาฬิกาชีวภาพเริ่มจากแสงสว่างและความมืดเป็นตัวควบคุมนาฬิกาชีวภาพที่สำคัญ โดยสมองส่วย Hypothalamus นะมีหน้าที่คล้ายศูนย์ควบคุมการทำงานต่างๆของร่างกายโดยมีแสงสว่างเป็นตัวช่วยควบคุม และเป็นตัวกระตุ้นผ่านจอประสาทตาแล้วส่งสัญญาณไปที่Hypothalamus เพื่ิให้ร่างกายรู้ถึงช่วงเวลาอันเป็นตัวกำหนดสมดุลการทำงานของร่างกาย

นี่เป็นเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์เล็กๆน้อยจากการไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้นะครับ
ต่อมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีนะครับ


ในรูปคือบริเวณที่จัดนิทรรศการ ในใจกลางกรุงโซลอยู่ในย่าน Dong Dae Mun ซึ่งเป็นย่านรวมของศูนย์การค้ามากมาย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น