วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Paracetamol !!!!!!!!!!!!!

Paracetamol
Paracetamol, also known as acetaminophen or APAP, is a medication used to treat pain and fever. It is typically used for mild to moderate pain. Evidence of benefit in fever for children is poor. It is often sold in combination with other ingredients such as in many cold medications. In combination with opioid pain medication, paracetamol is used for more severe pain such as cancer pain and after surgery. It is typically used either by mouth or rectally but is also available intravenously. Effects last between two and four hours.
Paracetamol is generally safe at recommended doses. Serious skin rashes may rarely occur. Too high a dose can result in liver failure. It appears to be safe during pregnancy and when breastfeeding. In those with liver disease, it may still be used but lower doses should be taken.Paracetamol is classified as a mild analgesic. It does not have significant anti-inflammatory activity and how it works is not entirely clear.
Paracetamol was discovered in 1877. It is the most commonly used medication for pain and fever in both the United States and Europe. It is on the WHO Model List of Essential Medicines, the most important medications needed in a basic health system. Paracetamol is available as a generic medication with trade names including Tylenol and Panadol among others. The wholesale prices is less than 0.01 USD per dose.In the United States it costs about 0.05 USD per dose.

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

Happy New Year !!!!

Happy New Year !!!!
  สวัสดีปีใหม่นะครับทุกๆคน วันนี้ผลจะมาพูดเรื่องความเป็นมาของวันปีใหม่นะครับบ

 วันปีใหม่ เป็นวันแรกของปีตามปฏิทินแบบเกรกอเรียน ตรงกับวันที่ ๑ มกราคมของทุกปีความหมายของวันขึ้นปีใหม่ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า " ปี" ไว้ดังนี้ ปี หมายถึง เวลา ชั่วโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว ๓๖๕ วัน : เวลา ๑๒ เดือนตามสุริยคติ
ความเป็นมาของ วันขึ้นปีใหม่

   ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ๔ ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม ๑ ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ ๒ กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน ๒ ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ ๑ เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๒ เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ ๑ เมษายน ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ขึ้นใน กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ก็ได้มีการ จัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ ๑ เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์ ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ ๑ มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป 


วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Korea Trip 4

Korea Trip Part 4
  พาร์ทสุดท้ายนี้นะครับ ผมจะพูดถึงที่เที่ยวล้วนๆเลยนะครับพักเรื่องวิชาการบ้างไรบ้างง
ที่แรก สวนสนุกริมทะเล (Wolmi theme park)
  เป็นสวนสนุกที่อยู่ติดกับริมฝั่งทะเล โดยจะมีเครื่องเล่น ร้านค้า ร้านอาหารอยู่มากมาย มีการแสดงน้ำพุทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนั้นยังมีบรรยากาศที่สวยงาม และมีลมที่พัดผ่านไปผ่านมาอญุ่ตลอดเวลา



ที่ต่อมาสวนสนุกล้อตเต้ (LOTTE WORLD)
  เป็นสวนสนุกที่กินอาณาบริเวณเป็นบริเวณกว้างมากพอๆกับดรีมเวิร์ดบ้านเราแต่ได้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนนอกและในอาคาร ส่วนนอกอาคารจะมีเครื่องเล่นที่พบได้ตามสวนสนุกทั่วไปแต่จะมีความหวาดเสียวมากกว่า และที่เป็นจุดเด่นคือมีปราสาทจากเรื่องซินเดอเรลล่าอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านในอาคารจะเป็นเครื่องเล่นของเด็กๆและพวกที่ต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆมาเกี่ยวข้องเช่น พวกเครื่องเล่นที่เป็น3D นอกจานั้นภายในอาคารยังมีลานไอซ์สเก็ตให้บริการอีกด้วย



MeangDong street
  เป็นย่านขายของขายสินค้าสำหรับวัยรุ่นและของแบรนด์ดังต่างๆส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพวกเครื่องสำอางและเสื้อผ้า



HongDae Street
เป็นถนนคนเดินที่ยาวมากตามร้านของทางจะขายเป็นสินค้าแบรนด์เนมบ้าง ขายเสื้อผ้าบ้างขายอาหารบ้าง ขายของอินดี้บ้าง และที่สำคัณคือย่านฮงแดเป็นแหล่งรวมของเหล่าวัยรุ่นของเกาหลี เปรียบเทียบก็น่าจะประมาณสยามของบ้านเรา



และที่สุดท้ายคือ จตุรัส กวาง ฮา มุน
  ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งของเกาหลี เนื่องจากเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของนายพล อีซุน ชิน (Yi sun-shin) และอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เซจงมหาราช ผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรของเกาหลีที่ใช้กันในปัจจุบัน เรียกว่า"ฮันกึล"


 ผมได้เรียนรู้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และได้ความรู้ด้านการจัดระเบียบสังคม การเกณฑ์ทหาร การศึกษา การปกครอง ของคนเกาหลีจากพี่ที่เป็นไกด์ ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ดีและสวยงาม ตลอดทั้งปี ถ้าวันหยุดยาวนี้ยังไม่มีโปรแกรมไปไหนผมว่าประเกาหลีใต้เหมาะกับการไปเที่ยวในฤดูหนาวมากเลยครับ ในการไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี่ผมให้คะแนน9/10เลยครับเพราะผมรู้สึกชอบประเทศนี้มากเลยครับ



วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Korea Trip 3

Korea trip part 3
  มาต่อกันในพาร์ทที่ 3 กันนะครับ เมื่อพูดถึงประเทศเกาหลีใต้สิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็จะเป็น แนวเพลงที่เรียกว่า Kpop และเหล่าไอดอลศิลปินต่างๆ ตอนที่ผมไปประเทศเกาหลีใต้ผมก็ได้ไปดูการแสดงเพลง kpop มาด้วยนะครับ แต่เสียดายที่ไม่ได้ดูแบบที่เป็นคนจริงแสดง 5555 แต่ผมได้ดูผ่านระบบโฮโลแกรมหรือว่าตามที่ดาราคนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า


เอ่ออออออออออ........ ตามนั้นแหละครับ อ่าาา วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องเทคนิกของโฮโลแกรมนะครับ
หลักการของ Hologram
โฮโลแกรม เป็นภาพที่มีลักษณะ 3 มิติ ซึ่งแตกต่างจากภาพ 2 มิติ เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด จอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เป็นต้น ภาพเหล่านี้จะเป็นภาพ 2 มิติ เมื่อแสงจากแหล่งกำเนิดแสง ไปกระทบผิวของภาพถ่าย, ภาพวาด ก็จะสะท้อนกลับมายังที่ตา ทำให้มองเห็นภาพเป็น 2 มิติ
แต่ภาพโฮโลแกรมจะใช้หลักการสร้างภาพให้มีการแทรกสอดของแสงที่มากระทบรูปภาพ โดยการฉายแสงเลเซอร์จากแหล่งเดียวกัน แยกเป็น 2 ลำแสง ลำแสงหนึ่งเป็นลำแสงอ้างอิงเล็งตรงไปที่แผ่นฟิล์ม อีกลำแสงหนึ่งเล็งไปที่วัตถุและสะท้อนไปยังฟิล์ม แสงจากทั้งสองแหล่งจะถูกบันทึกไว้บนฟิล์มในรูปแบบของการแทรกสอด (Interference Pattern) ซึ่งมองไม่คล้ายกับรูปของวัตถุต้นแบบ ก่อให้เกิดภาพเสมือน (Virtual image) ขึ้นมาตามมุมของแสงที่มาตกกระทบ ทำให้ตาของเรารับแสงอีกด้านหนึ่งของแผ่น Hologram เกิดเห็นภาพ 3 มิติขึ้น
ฮอโลแกรมถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการที่เรียกว่า ฮอโลกราฟี (Holography) โดยฮอโลกราฟีเป็นเทคนิคที่ช่วยให้แสงกระจายจากวัตถุที่จะบันทึกและได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้ปรากฏเป็นวัตถุอยู่ในตำแหน่งเดิมเมื่อเทียบกับการบันทึก การเปลี่ยนแปลงรูปแบบตำแหน่งและทิศทางของระบบการมองเห็นเป็นไปอย่างถูกต้องเหมือนกับว่าวัตถุก็ยังคงเป็นปัจจุบันจึงทำให้ภาพที่บันทึกปรากฏเป็นสามมิติ ฮอโลแกรม 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระยะไกลระหว่างบุคคลต้นทางและปลายทางที่อยู่ต่างสถานที่กัน สามารถโต้ตอบแบบตัวต่อตัว
การสร้างโฮโลแกรมแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
(1) การบันทึกภาพ (recording of image) เป็นการบันทึกแถบการสอดแทรกเชิงซ้อน (Complex interference patterns) ซึ่งเกิดจากที่แต่ละแสงเลเซอร์ 2 ลำแสงซ้อนทับกันอยู่ (Superposition) แถบการสอดแทรกเชิงซ้อนนี้จะถูกบันทึกไว้บนฟิล์มถ่ายรูป (Photographic film)
(2) การสร้างภาพ (reconstruction of image) เป็นการสร้างภาพ 3 มิติ ขึ้นจากแผ่น
ครับ.. ผมอยากจะบอกว่าโฮโลแกรมที่ผมได้ดูนั้นล้ำมากจริงๆนะครับ คอนเสิร์ตที่ผมได้ดูนั้นเป็นของวง 2NE1 BigBang และ PSY เจ้าของเพลง"กังนัมสไตล์" ซึ่งเป็นโฮโลแกรมที่ล้ำมากๆเลยครับดูแล้วเหมือนเราได้ไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินจริงๆ แต่เสียดายที่พนักงานจะไม่ให้ถ่ายรุปด้านในที่ทำการแสดงนะครับ ส่วนรูปที่เห็นอยู่นี้เอามาจากกูเกิ้ลนะครับ 55555

การแสดงโฮโลแกรม K Live ที่ผมได้ดูนั้นอยู่ในย่าน Dong Dae Mun ที่ผมได้เคยในดูรูปในบล้อก "Korae trip part 1" นะครับ


วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Korea Trip 2

Korea trip part 2
  ในสัปดาห์ที่แล้วผมได้พูดถึง Biological clock ไปแล้ว วิทยาศาสตร์รายสัปดาห์ในสัปดาห์นี้ผมจะมาอธิบายถึงกลศาสตร์ในการบินครับ
  ในเรื่องของการเดินทางที่รวดเร็ว ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่ได้นะครับ นั่นคือเรื่องของกลศาสตร์การบิน กลศาสตร์การบินคือเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาในเรื่องแรงที่มีผลต่อการบินหรือแรงที่มีผลต่อเครื่องบินโดยแรงที่สำคัญต่อการบินนั่นก็คือแรงยกของปีกเครื่องบิน นอกจากแรงยกที่ปีกก้ยังมีแรงอื่นๆอีก
  แรงที่กระทำบนเครื่องบินโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ แรงฉุด (Drag) แรงขับ (Thrust) น้ำหนัก
(Weight) และแรงยก (Lift) แรงฉุดคือแรงที่ดึงเครื่องบินไปข้างหลังทำให้ความเร็วของเครื่องบินลดลง แรงขับคือแรงดึง
หรือผลักเครื่องบินไปข้างหน้า น้ำหนักคือผลของแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อเครื่องบิน และแรงยกคือแรงที่ยก
เครื่องบินให้ลอยอยู่ในอากาศได้ เมื่อเครื่องบินบินอยู่ที่ระดับความสูงคงที่ค่าหนึ่งด้วยความเร็วคงตัว แรงยกจะเท่ากับ
น้ำหนัก และแรงขับจะเท่ากับแรงฉุด

  แรงยกเกิดจากองค์ประกอบความเฉือนและความดันที่กระทำบนเครื่องบินในทิศตั้งฉากกับทิศทางการบิน เป็น แรงที่ทำให้เครื่องบินลอยอยู่ในอากาศ แรงยกเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นที่ปีกของเครื่องบิน สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือการอธิบายที่ นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไป จะเกี่ยวข้องกับรูปร่างของปีกซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ถึงแม้ว่ารูปร่างของปีกเครื่องบิน จะสำคัญมาก แต่ถ้ารูปร่างเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เกิดแรงยกบนปีกเครื่องบินแล้ว เครื่องบินจะไม่สามารถบินหงาย ท้องได้เลย และในทำนองเดียวกันเครื่องบินที่พับจากกระดาษจะไม่สามารถร่อนขึ้นสูงได้ด้วยปีกแบน ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเครื่องบินบินได้โดยการผลักดันหรือเปลี่ยนทิศทางของอากาศให้มีทิศลงเพื่อสร้างแรงยกตามสมการโมเมนตัมเชิงเส้น หรือกฎข้อที่สองของนิวตัน การสร้างแรงยกทำโดยการเบี่ยงเบนอากาศให้มีทิศลง ปีกต้องสามารถเปลี่ยนความเร็วของอากาศเพื่อให้เกิด ความเร่ง (หรือเปลี่ยนโมเมนตัม) ซึ่งเป็นสาเหตุให้ความดันด้านบนของปีกต่ำกว่าความดันใต้ปีกทำให้ยกปีกขึ้นได้ ข้อ สำคัญที่ต้องจำ คือ ปีกต้องเบี่ยงเบนอากาศเพื่อเป็นสาเหตุให้เปลี่ยนแปลงความดัน สิ่งที่ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนของอากาศได้คือการทำให้ปีกเครื่องบินท ามุมกับทิศทางการไหลของอากาศซึ่ง เรียกว่ามุมปะทะ (Attack angle) สิ่งนี้จะทำให้เกิดแรงยก แต่จากข้อมูลการทดลองทางวิศวกรรมพบว่ามุมปะทะไม่ควร เกิน 15 องศา เพราะถ้ามากกว่านั้นจะทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัว ดังรูป

ต่อไปจะแนะนำที่เที่ยวในเกาหลีนะครับ
ที่ผมจะแนะนำคือโซลทาวเวอร์นะครับ เรียกว่าเป็นแลนด์มากที่สำคัญของกรุงโซลเลยก็ว่าได้นะครับ


วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The return & korea trip part 1

    หลังจากการที่ว่างเว้นในการเขียนบล็อกมาเป็นเวลานาน น๊าาานนน นาน นะครับ บล็อกผมก็ได้กลับมาในชื่อและรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ Weekly Science (วิทยาศาสตร์รายสัปดาห์)จะมีทั้งเนื้อหาสาระ เรื่องราวกิจกรรมของเจ้าของกระทู้ และอื่นๆ(ที่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก555)

    ตอนที่ผมได้หายไปนั้นก็เป็นช่วงปิดเทอมผมก็ได้ไปเที่ยวพักผ่อนในที่ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเทศที่ผมได้ไปท่องเที่ยวนั้นคือ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนในประเทศนั้นผมได้ไปเที่ยวที่ เขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน)จังหวัด สุราษฎร์ธานี

KOREA TRRIP PART 1

ในโพสแรกนี่จะพูดถึงทริปที่ผมได้ไปเกาหลีมานะครับ โดยที่เวลาของประเทศเกาหลีนั้นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. โดยสภาพอากาศที่เกาหลีในช่วงที่ผมไปนั้นคล้ายๆกับประเทศไทย แต่จะเย็นกว่าเล็กน้อย เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยเครื่องบินอย่างแรกที่คนมักจะนึกถึงคือ อาการ jet lag วันนี้ผมก็จะมาอธิบายเรื่องนี้แหละครับ

Jet lag หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Desynchronosis หรือ Flight fatigue เป็นกลุ่มอาการทางด้านสรีรระวิทยา ซึ่งเกิดจากการแปรปรวนต่อระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย เป็นผลมาจากการเดินทางระยะทางไกลและเป็นเวลาอันรวดเร็ว(โดยเฉพาะเครื่องบินไอพ่น)

นาฬิกาชีวภาพ(Circadian Rhythm หรือ Human Biological Clock) เป็นระบบที่สำคัญของร่างกายที่คอยควบคุมการหลั่งฮอร์โมน เพิ่มความตื่นตัว ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกาพ และยังช่วยควบคุมวงรอยการหลับและตื่น และควบคุมระดับอุณหภูมิของคนเราอีกด้วย แต่ถ้าร่างกายขาดความสมดุลสม่ำเสมอของตัวควบคุมนาฬิกาชีวิต ก็จะเกิดการแปรปรวน ซึ่งระบบนาฬิกาชีวภาพเริ่มจากแสงสว่างและความมืดเป็นตัวควบคุมนาฬิกาชีวภาพที่สำคัญ โดยสมองส่วย Hypothalamus นะมีหน้าที่คล้ายศูนย์ควบคุมการทำงานต่างๆของร่างกายโดยมีแสงสว่างเป็นตัวช่วยควบคุม และเป็นตัวกระตุ้นผ่านจอประสาทตาแล้วส่งสัญญาณไปที่Hypothalamus เพื่ิให้ร่างกายรู้ถึงช่วงเวลาอันเป็นตัวกำหนดสมดุลการทำงานของร่างกาย

นี่เป็นเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์เล็กๆน้อยจากการไปเที่ยวเกาหลีครั้งนี้นะครับ
ต่อมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีนะครับ


ในรูปคือบริเวณที่จัดนิทรรศการ ในใจกลางกรุงโซลอยู่ในย่าน Dong Dae Mun ซึ่งเป็นย่านรวมของศูนย์การค้ามากมาย




วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ทฤษฎีกรด-เบส [Acid-Base Theory]

Acid-Base Theory
Arrhenius Concept
กรด คือ สารประกอบที่มี H และเมื่อละลายน้ำจะแตกตัวให้ H + หรือ H 3O +
เบส คือ สารประกอบที่มี OH และเมื่อละลายน้ำจะแตกตัวให้ OH -
ปัญหาที่สำคัญของทฤษฎีกรด-เบสของอาร์รีเนียส คือ ไม่สามารถระบุความเป็นกรด-เบสของสารที่ไม่ละลายน้ำได้ และไม่สามารถระบุความเป็นกรดที่ไม่มีไฮโดรเจนได้ เช่น AlCl3 หรือเบสที่ไม่มีไฮดรอกไซด์ไอออน เช่น NH3 หรือ N(CH3)3 ได้ จึงมีการนิยามขึ้นใหม่โดยนักเคมีรุ่นหลัง
Bronsted-Lowry Concept
กรด คือ สารที่สามารถให้โปรตอน ( proton donor)แก่สารอื่น
เบส คือ สารที่สามารถรับโปรตอน ( proton acceptor)จากสารอื่น
ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบสจึงเป็นการถ่ายเทโปรตอนจากกรดไปยังเบสเช่น แอมโมเนียละลายในน้ำ
NH 3(aq) + H 2O (1) คำอธิบาย: https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEhGaazVsZiO_j0xCfuC8o0r9xT8E9wawIi16g9-V40PxHpsDifk3nNTr6ZpM6nWL8nE9Fd6uBAHYWQX1Ff5yJf6f_Mb7aaB06wkXhoC2SV28GRGTWPeXKAP1nwRGhVD-uodG729QVh0LqbbgZTg-H-dFc4_d7JZuvYV8YV6KWiY= NH 4 + (aq) + OH - (aq)
base 2 ........ acid 1 ........ acid 2 ........ base 1
ในปฏิกิริยาไปข้างหน้า NH 3 จะเป็นฝ่ายรับโปรตอนจาก H 2O ดังนั้น NH 3 จึงเป็นเบสและ H 2O เป็นกรด แต่ในปฏิกิริยาย้อนกลับ NH 4 + จะเป็นฝ่ายให้โปรตอนแก่ OH - ดังนั้น NH 4 + จึงเป็นกรดและ OH - เป็นเบส อาจสรุปได้ว่าทิศทางของปฏิกิริยาจะขึ้นอยู่กับความแรงของเบส
สารแอมโฟเทอริก สารประกอบที่ทำหน้าที่ได้ทั้งกรดเบรินสเตดและเบสเบรินสเตด โดยน้ำเป็นตัวอย่างของสารแอมโฟเทอริก ดังสมการ: AH + B A + BH+
HNO3 + H2O NO3 + H3O+(น้ำทำหน้าที่เป็นเบส)
H2O + NH=C(NH2)2  OH + H2N=C(NH2)2+(น้ำทำหน้าที่เป็นกรด)
ความแรงสัมพัทธ์ของกรดเบรินสเตดความแรงของกรดเบรินสเตดสามารถเปรียบเทียบโดยใช้ ค่าคงที่การแตกตัวของกรด (Acid Dissociation Constant: Ka) โดยที่:
HA A + H+



อย่างไรก็ตาม ค่าคงที่การแตกตัวของกรดเป็นค่าคงที่ที่เป็นค่าเฉพาะ ณ อุณหภูมิหนึ่งๆ และมีค่าเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ รวมถึงขึ้นอยู่กับชนิดองตัวทำละลายด้วย ดังตารางเป็นตัวอย่างของค่า pKa ของกรดบางชนิดในตัวทำละลายชนิดต่างๆ ที่อุณหภูมิ 25
Lewis Concept
กรด คือ สารที่สามารถรับอิเลคตรอนคู่โดดเดี่ยว ( electron pair acceptor) จากสารอื่น
เบส คือ สารที่สามารถให้อิเลคตรอนคู่โดดเดี่ยว ( electron pair donor)แกสารอื่น
ทฤษฎีนี้ใช้อธิบาย กรด เบส ตาม concept ของ Arrhenius และ Bronsted-Lowry ได้ และมีข้อได้เปรียบคือสามารถอธิบาย กรด เบส ในกรณีที่เกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน และได้สารประกอบที่มีพันธะโควาเลนซ์ เช่น
OH - (aq) + CO 2 (aq) คำอธิบาย: https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEhPCamkq6CBBBQB6EdO4ZOTUJiMsv-CfD9xfiorQR530hC-NpmhTfmtG0jOAaNhLvh2OJlPOd5M-uG1myyQn8_iXgto0exCz6LtI2jb0p8flnyGzyjGaz5HVltP58aMhttgmCVd32Atn0ktAl0cT9As7svHNn7ik8hepal8M-Nk=HCO 3 - (aq)


BF 3 + NH 3คำอธิบาย: https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEhPCamkq6CBBBQB6EdO4ZOTUJiMsv-CfD9xfiorQR530hC-NpmhTfmtG0jOAaNhLvh2OJlPOd5M-uG1myyQn8_iXgto0exCz6LtI2jb0p8flnyGzyjGaz5HVltP58aMhttgmCVd32Atn0ktAl0cT9As7svHNn7ik8hepal8M-Nk=BF 3-NH 3
ตัวอย่างปฏิกิริยากรด-เบสของลิวอิส
BF3 + F → BF4
BF3 + OMe2 → BF3O
Me2I2 + I → I3

SiF4 + 2 F → SiF62−